ความสัมพันธ์ที่แย่ที่สุด คือการอยู่กับคำถามที่ไม่รู้ว่าจะได้คำตอบเมื่อไหร่
ทุกคนล้วนมีสิทธิ์จะถูกใจผู้ใด มีสิทธิ์จะรักคนใด มนุษย์เราเมื่อเติบโตขึ้นถึงตอนหนึ่งของชีวิตต่างก็มีความรักที่สวยสดงดงามได้เสมอ สามารถสุขสบายสำหรับเพื่อการมีความรัก เกิดกำลังใจจากความรัก ความเชื่อมโยงของแต่ละคนหรือแต่ละคู่ต่างก็มีความต่างกันออกไป บางคู่มีความรักที่อยู่ในเหตุการณ์ที่ดี อยู่ด้วยความรู้ความเข้าใจ รอเป็นอย่างยิ่งหัวใจให้กันในวันแล้ววันเล่า แม้กระนั้นบางคู่เป็นความสโมสรที่ไม่รู้เรื่องกันเปลี่ยนเป็นความเกี่ยวข้องที่ตกต่ำ ซึ่งเนื้อหานี้ทางนักเขียนจะมาแชร์ประสบการณ์ชีวิต กับความเชื่อมโยงที่คอยคำตอบจากอีกข้างซึ่งไม่มีคำตอบ
พวกเราชื่อ ก้อย (สมญานาม) พวกเรากับแฟนเป็นคู่แต่งงานเพศเดียวกัน (หญิงรักหญิง) ขั้นแรกๆที่คบกัน ทุกสิ่งดูดีไปหมด ทุกๆอย่างมีแฮปปี้ไปหมด มีการตั้งใจซึ่งกันและกัน จะไปไหนทำอะไร จะรายงานให้กันและกันตลอด ซึ่งตลอดเวลาที่คบกันมา 5 ปีกว่า ไม่เคยมีปัญหากันเลย ไม่เคยทะเลาะกัน ภายหลังที่แฟนพวกเราจำเป็นต้องย้ายกลับไปอยู่ที่บ้านตนเอง เพราะว่าแม่เขาไม่ค่อยสบาย พวกเรามีความคิดว่าแฟนแปรไป แฟนพูดว่าแม่ให้สมรสกับผู้ที่แม่เลือกให้ ซึ่งผู้ที่แม่เลือกให้เป็นเพศชายซึ่งสามารถดูแลแฟนพวกเราได้ และก็เพศชายที่แม่แฟนพวกเราจำเป็นต้องสมรสด้วยเขาก็เข้าออกบ้านแฟนพวกเราตลอด พวกเราก็ถามแฟนว่าถ้าหากเลือกเพศชายที่แม่เลือกให้ ก็ควรจะปลดปล่อยพวกเราไป แม้กระนั้นแฟนบอกขอเวลาก่อน พวกเราก็บอกแฟนเสมอหากพร้อมเมื่อใดก็บอกพวกเราพร้อมจะเดินออกมาจากชีวิตเขาเสมอ เวลาผ่านพ้นมาเป็นปี แฟนพวกเราก็ยังทำราวกับทุกสิ่งธรรมดา เขาไม่มีคำตอบให้พวกเราเลยว่าจะเลือกทางไหน ได้แต่ว่าบอกพวกเราว่าขอเวลาหน่อย ซึ่งสิ่งที่แฟนพวกเราเป็นอยู่ ทำให้พวกเรารู้สึกไม่ดีมากมาย กับการรอคอยคำตอบที่ไม่เคยรู้จะได้คำตอบเมื่อไร และก็ทำให้พวกเราทราบดีว่า
1. พวกเราไม่สมควรคอยความเชื่อมโยงที่ไม่แน่ชัด
มนุษย์เราจะมีความรักไม่ใช่สิ่งที่ห่วยแตกเสมอ หากอยู่ในความเชื่อมโยงที่รู้เรื่องซึ่งกันและกัน ให้ความยำเกรงกัน ให้ความรักกันและกัน ให้ความเด่นชัดกัน มีความเชื่อมั่นในความรัก มอบความสุจริตใจให้กัน แม้กระนั้นหากเมื่อไรที่อยู่ในความข้องเกี่ยวที่คลุมเครือไม่มีคำตอบว่าจะทำเช่นไรถัดไป ควรจะเดินออกมาจากความไม่แน่ชัดแล้วให้ความกระจ่างแจ้งกับตนเอง ทำให้ตนเองมีตัวตน
2. เดินออกมาจากความข้องเกี่ยวก่อนจะสายเกินความจำเป็น
ถ้าหากเมื่อใดที่รู้ดีว่าอยู่ในความเกี่ยวข้อง ที่ทุกๆอย่างเป็นคนรักกันแม้กระนั้นไม่สามารถที่จะบอกใครๆได้ว่าสถานะเป็นยังไง ไม่กล้าบอกคนที่อาศัยอยู่ในครอบครัวว่าคบกันอยู่ ไม่กล้าบอกสหายว่าเป็นคนรักกันอยู่ ไม่กล้าเผยได้ว่าพวกเราอยู่ในสถานะไหน ไม่ยินยอมเผยให้คนที่อาศัยอยู่ในครอบครัวรับทราบ พวกเราไม่สมควรที่จะเสียเวล่ำเวลา ไม่สมควรอยู่ในความข้องเกี่ยวอย่างงั้น นอกเหนือจากทำให้ไม่มีตัวตนแล้ว ยังรู้สึกไม่ดีอีก ควรจะเดินออกมาจากความเกี่ยวเนื่องที่ไม่อาจจะบอกคนใดกันแน่ได้ ก่อนที่จะทุกๆอย่างจะสายเหลือเกิน
3. เป็นที่ระบายความว้าเหว่ของคนอื่นๆ
เมื่อใดที่รู้สึกตัวเองว่าความสมาคมที่พวกเราเป็นเพียงแค่ตัวเลือกของเขา เป็นผู้ที่เขาเก็บไว้ระบายความรู้สึก เป็นผู้ที่เขาคุยเวลาที่เขาหงอยเหงา แม้กระนั้นเขาไม่เป็นจริงเป็นจังด้วย ไม่ยินยอมปลดปล่อยให้พวกเราไปเริ่มต้นใหม่ ถ้าหากเมื่อไรที่รู้ดีว่าอยู่ในสถานะที่เขาไม่เป็นจริงเป็นจัง ควรจะพาตนเองออกมา เพื่อจะได้เป็นสุขสำหรับการดำเนินชีวิต มีความไม่กังวลใจ เพื่อตนเองได้พบกับผู้ที่มุ่งมั่นแล้วก็ผู้ที่เขาพร้อมที่จะประสานมือพวกเราไปร่วมกัน
4. ถ้าหากอยู่ในสถานะที่ไม่มีตัวตน จนกระทั่งกลับมาให้ความเอาใจใส่กับตนเอง
เมื่ออยู่ในสถานะที่ไม่มีตัวตน ปราศจากความหมาย เป็นตัวเลือกของผู้อื่น อยู่ในความเกี่ยวเนื่องที่ทำให้อ่อนแรงกับความไม่ชัดแจ้งของอีกข้าง อยู่กับความข้องเกี่ยวที่ไม่รู้จักจะได้คำตอบเมื่อใด พวกเราไม่สมควรที่จะเสียเวล่ำเวลาอยู่ในความข้องเกี่ยวอย่างงั้น ควรจะถอยออกมาให้ท่านค่าในตนเอง กลับมาให้ความใส่ใจในตนเอง แล้ววันใดวันหนึ่งพวกเราจะมีคุณค่าสำหรับผู้ที่คู่ควรกับพวกเราเอง โดยที่ไม่ต้องเสียเวล่ำเวลารอคอยคำตอบ
ด้วยเหตุผลดังกล่าวจะมีความคิดเห็นว่าเมื่อไรที่รู้สึกตัวว่า อยู่ในสถานะหรืออยู่ในความเกี่ยวเนื่องที่ไม่มีตัวตน ปราศจากความหมาย ไร้ค่า ไม่มีความจำเป็น เป็นตัวเลือกให้เขาได้คุยเล่น ให้เขาได้ระบายความเดียวดาย เป็นตัวสำรองของบุคคลอื่น อยู่ในความเชื่อมโยงที่ไม่สามารถที่จะเผยให้ผู้อื่นทราบได้ ไม่สมควรที่จะทนอยู่ให้ตนเองเศร้าใจ เสียเวล่ำเวลา ไม่สมควรที่จะคอยความแจ่มชัดจากคนอื่นๆ พวกเราเดินออกมาจากความเกี่ยวเนื่องที่กำกวม ควรจะกล่าวโทษแจ่มชัดให้ตนเอง กลับมาให้ท่านค่าในตนเอง แล้วเวลาจะช่วยทำให้พวกเราได้พบกับผู้ที่พร้อมจะมีพวกเราอย่างเป็นจริงเป็นจัง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น